ศึกพรีเมียร์ลีกคัมแบ็กหลังเบรกทีมชาติด้วยบิ๊กแมตช์คู่หยุดโลกทันทีเมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพ่วงแชมป์เก่าเปิดบ้านต้อนรับ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงบนช่องว่างห่างกันเพียงแต้มเดียว แต่กระนั้นสถิติเจอกันดูเข้าทาง “เรือใบสีฟ้า” เล่นในรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ไม่เคยแพ้นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2015 ในปีแรกของ เจอร์เก้น คล็อปป์
ปรีวิวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566
แมนฯ ซิตี้ (1) – ลิเวอร์พูล (2)
เวลา : 19.30 น.
ถ่ายทอดสด : ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 1-2
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
แมนฯ ซิตี้
เช็กความพร้อมก่อนลงสนาม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดกุนซือ แมนฯ ซิตี้ หมดสิทธิ์ใช้งาน เควิน เดอ บรอบน์, จอห์น สโตนส์ พักยาว ทั้งยังต้องเช็กฟิตแข้งเดี้ยงช่วงคาบเกี่ยวฟีฟ่า เดย์ ไม่ว่าจะเป็น มาเตโอ โควาชิช, เซร์คิโอ โกเมซ และ มาเตอุส นูเนส
อย่างไรก็ตามข่าวดีคือ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่เจ็บข้อเท้าวืดช่วยทีมชาตินอร์เวย์ ล่าสุซ้อมได้เต็มรูปแบบ ลงเล่นได้แน่นอน เช่นเดียวกับในราย เอแดร์ซอน และ นาธาน อาเก้ ที่ต่างก็ไม่ได้เดินทางไปรับใช้ทีมชาติ แต่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ดาวยิงอาร์เจนไตน์เพิ่งเดินทางไกลคงได้พัก
ลิเวอร์พูล
ด้าน เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ “หงส์แดง” ยังไร้ตัวเจ็บยาวทั้ง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, สเตฟาน บายเชติช แต่กลับกันได้หลายรายฟิตกลับมาซ้อม ไม่ว่าจะเป็น อิบราฮิมา โกนาเต้, เคอร์ติส โจนส์, ไรอัน กราเฟนแบร์ค, โจ โกเมซ รวมถึง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ พ้นโทษแบน
ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ และ ลุยส์ ดีอาซ ดูโอตัวรุกละตินที่ฟอร์มฮอตช่วงรับใช้ชาติส่อแววนั่งสำรองเนื่องด้วยเดินทางมาไกล เปิดโอกาส โกดี้ คักโป, ดีโอโก้ โชต้า ลงตัวจริงประสานงานกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่กำลังไล่ล่าประตูครบหลัก 150 บนเวทีพรีเมียร์ลีก
นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, มานูเอล อาคันจี, รูเบน ดิอาส, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้, ฟิล โฟเด้น – เฌเรมี่ โดกู, เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, แจ็ค กรีลิช
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เวอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิกาส – โดมินิค โซโบซไล, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ค – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โกดี้ คักโป, ดีโอโก้ โชต้า
ความน่าจะเป็นของเกม
ตามหน้ากระดาษดูเหมือนขุมกำลังของ ลิเวอร์พูล พร้อมกว่าแต่วัดอาวุธหนักหมัดต่อหมัดต้องบอกว่า แมนฯ ซิตี้ มีประสิทธิภาพเหนือกว่าชัดเจน อีกอย่างแนวรับหงส์แดงยังไม่ค่อยนิ่งเสียทีเดียว เกิดพลาดท่าโดนก่อนแล้วงานหนักแน่ ที่สุดถ้าจะมีผู้ชนะยังเชื่อว่าน่าเป็นฝั่งเรือใบ
ผลการแข่งขันที่คาด
แมนฯ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1