หลุยส์ เอ็นรีเก้ นายใหญ่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ระบุ
“เปแอสเช” ทำผลงานได้น่าผิดหวังในช่วงครึ่งแรกของเกมกับ เรอัล โซเซียดาด พร้อมเผยว่าเกมนัดสองที่ ซาน เซบาสเตียน ทีมของตนจะเจองานหินแน่
หลุยส์ เอ็นรีเก้ เทรนเนอร์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอมรับว่าทีมของตนเล่นได้แย่มากๆ ในช่วงครึ่งแรกของเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรกที่เปิดรัง ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เอาชนะ เรอัล โซเซียดาด 2-0 เมื่อวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
เกมนี้กว่าที่เจ้าถิ่นจะได้ประตูขึ้นนำต้องรอจนถึงนาทีที่ 58 จากผลงานของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ก่อนที่ แบรดลี่ย์ บาร์โกล่า จะทำประตูตอกย้ำชัยชนะให้กับ ปารีสฯ ในนาทีที่ 70 ส่งผลให้ “เปแอสเช” ได้เปรียบมากพอตัวก่อนจะเตะนัดสองที่ ซาน เซบาสเตียน ในวันที่ 5 มีนาคมนี้
เอ็นรีเก้ เผยว่า “เมื่อมองถึงฟอร์มในช่วงครึ่งแรกแล้วน่ะมันก็เป็นเรื่องยากที่จะนึกภาพได้ว่าเราจะชนะเกมนี้ด้วยสกอร์ 2-0 เรารู้ดีอยู่แล้วว่า เรอัล โซเซียดาด เล่นได้ดีแค่ไหน พวกเขาเป็นแชมป์จากกลุ่มของตัวเอง และเล่นร่วมกันมาหลายปี พวกเขารู้ดีว่าต้องเล่นในแบบไหนและผมคิดว่าพวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม”
“คุณพอจะนึกภาพออกเลยว่าเราจะต้องเจอกับแรงกดดันอย่างหนักในเกมที่ต้องไปเยือน ซาน เซบาสเตียน มันจะมีงานหนักรออยู่ แต่ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มอบโอกาสหลายอย่างให้กับคุณ ในครึ่งหลังเราเริ่มต้นกันได้ดีขึ้น เราสามารถกดดันพวกเขาได้มากกว่าเดิม เราสามารถเอาบอลออกมาจากแดนหลังได้, ต่อเกมกันได้, สร้างความอันตรายได้มากขึ้น, มีจังหวะทำประตูที่จะแจ้งมากกว่าเดิม และผ่านบอลไปให้เหล่ากองหน้าได้ดีขึ้น นั่นเป็นจุดที่เราสร้างความแตกต่างได้”
“เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก มันมีความกดดันมากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว และในครึ่งแรกเราก็เล่นตามเกมของตัวเองไม่ได้เลยเพราะ เรอัล โซเซียดาด ไล่บีบเราได้ดีมากๆ ยังดีที่ในครึ่งหลังเราเริ่มทำได้ดีขึ้นในสถานการณ์เหล่านี้ เรามีความมั่นใจในการเล่นกันมากขึ้น และผมคิดว่าในครึ่งหลังเราทำได้ดีกว่า เรอัล โซเซียดาด”