ตอนนี้อนาคตในการกุมบังเหียนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เอริค เทน ฮาก ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้ว หลังผลงานในฤดูกาลนี้น่าผิดหวังมากๆ แถมทุกอย่างมีโอกาสชี้ชะตาในช่วงสุดสัปดาห์นี้
แมนฯ ยูฯ ทำผลงานได้แบบสามวันดีสี่วันเศร้า ! เพราะเมื่อช่วงกลางสัปดาห์พวกเขาเพิ่งจะได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากฟอร์มที่ชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี แต่หลังจากนั้นแค่สามวันทุกอย่างกลับมาสู่จุดเดิม นั่นก็คือการเล่นที่ไร้จินตนาการ แถมมีข้อผิดพลาดเพียบในเกมแพ้คาบ้านต่อ บอร์นมัธ
จากสถานการณ์ในตอนนี้ “ปีศาจแดง” เก็บได้ 27 คะแนนรั้งอันดับ 6 ตามหลังท็อปโฟร์ 6 แต้ม และอยู่ห่างจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จ่าฝูง 10 คะแนน แม้ว่าการแข่งขันในลีกจะผ่านไปเพียง 16 แมตช์ และหนทางยังอีกยาวไกล แต่การแพ้ถึง 7 เกมทั้งๆ ที่ยังไม่หมดปี 2023 ถือว่าเป็นผลงานที่ย่ำแย่เกินกว่าที่แฟนผีโปรเจกต์จะรับได้
หากมองจากความเป็นจริง เทน ฮาก ก็ไม่ได้ทำทีมย่ำแย่มากนัก เพียงแต่พวกเขาขาดความคงเส้นคงวาในการเล่น และไม่เฉียบคมในการจบสกอร์ แถมนักเตะบางคนยังเป็นประเภทวัน แมน โชว์ อยากจะแสดงผลงานมากเกินเหตุจนทำให้ทีมเสียสมดุล และเล่นไม่เป็นระบบ
อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด ดันมาเจอโปรแกรมที่โหดเหลือเกินในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ และนั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญมากๆ เพราะถ้าไม่มี 2 เกมต่อไปนี้ เชื่อว่าบอร์ดบริหารก็น่าจะให้โอกาสเขาได้แก้ตัวต่อไปจนถึงช่วงต้นปี 2024 ก็ได้
สองแมตช์ดังกล่าวก็คือวันอังคารนี้ “ผีแดง” ต้องเปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค แมตช์สุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งพวกเขาต้องเอาชนะให้ได้ และลุ้นแช่งคู่ กาลาตาซาราย กับ เอฟซี โคเปนเฮเก้น ไม่มีผลแพ้ชนะ ถึงจะได้ทะลุรอบ 16 ทีมสุดท้าย
หลังจากนั้นก็ต้องยกพลไปทำศึกมหาเทพ “แดงเดือด” กับ ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ ซึ่งพวกเขาเพิ่งจะโดนถล่มยับไม่นับญาติ 7-0 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ในวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคมนี้ โดยแมตช์นี้ไม่มี บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ
ถ้าลองนึกภาพเกมพบ บาเยิร์น ถ้าพวกเขาเอาชนะไม่ได้นั่นหมายถึงการตกรอบแบ่งกลุ่ม ถ้วยใบโตยุโรป และอาจไม่ได้เล่นเพลย์ออฟ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ด้วย คงทำให้ขวัญกำลังใจของพวกเขาสูญเสียเยอะเป็นทวีคูณ
อย่างไรก็ตามในการสู้กับคู่อริตลอดกาลที่ลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ ถือเป็นแมตช์แห่งศักดิ์ศรีไม่ว่าทีมไหนจะมีผลงานย่ำแย่หรือดีเยี่ยมก็ตาม แต่เมื่อมาเจอกันสถิติหรือฟอร์มที่ผ่านมาไม่เกี่ยว เพราะพวกเขาพร้อมฟาดฟันกันอย่างเต็มที่ ฉะนั้นมีความเป็นไปได้ที่ แมนฯ ยูฯ อาจจะสู้ถวายหัวเพื่อเรียกศรัทธาจากสาวก “เร้ด อาร์มี่” กลับคืนมา
ถ้าหาก แมนฯ ยูฯ แพ้แถมรูปเกมสู้ไม่ได้ มันจะเกิดอะไรขึ้น ? งานนี้บอกเลยว่ากระแสการปลด เทน ฮาก คงเพิ่มเป็นทวีคูณ และอาจจะเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วันหลังจากจบเกม “แดงเดือด” ก็ได้
แม้หลายคนอาจจะแย้งว่าถ้าไล่ กุนซือชาวดัตช์ ออกแล้วจะหาใครมาแทน เพราะตอนนี้พวกโค้ชเกรดเอไม่สนใจที่จะเอาชื่อเสียงตัวเองมาทิ้งใน “โรงละครแห่งความฝัน” แต่ด้วยวิถีลูกหนังการปลดก็เพื่อเพิ่มความสดใหม่เข้าไป และอาจทำให้ทีมมีผลงานกระเตื้องขึ้น เหมือนวลีเด็ดที่มักจะพูดกันว่า “บอลเปลี่ยนโค้ช”
หลายสโมสรแสดงให้เห็นแล้วว่าในกรณีแบบนี้การเปลี่ยนผู้จัดการทีมมักส่งผลดีในเชิงบวก ฉะนั้นสิ่งนี้อาจเกินขึ้นหาก เทน ฮาก ไม่สามารถนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ผลการแข่งขันที่ดีที่สุดใน 2 เกมต่อจากนี้ !!!
