ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2023-2024 ต้องบอกเลยว่าสูสีกันมากๆ เพราะทีมหัวตารางทั้ง 6 สโมสรมีคะแนนเบียดกันสุดๆ และงานนี้บอกเลยว่าทีมใดก็ตามที่สะดุดเพียงแค่เกมหรือสองเกมสถานการณ์ของพวกเขามีสิทธิ์เปลี่ยนได้ทันที
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ยึดจ่าฝูงได้ไม่กี่สัปดาห์แต่ตอนนี้พวกเขาต้องเจอกับผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังเมื่อแพ้ 2 เกมติดต่อกันให้กับ เชลซี และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แถมยังเสียนักเตะกำลังสำคัญอย่าง เจมส์ แมดดิสัน กับ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน ที่ได้รับบาดเจ็บต้องพักหลายสัปดาห์ ทำให้ตอนนี้ “ไก่เดือยทอง” ร่วงไปอยู่อันดับ 4 แล้ว
ที่น่าสนใจก็คือหลังจบช่วงพักเบรกทีมชาติ “หงส์แดง”
กับ แมนฯ ซิตี้ มีคิวต้องดวลกันในเกมพรีเมียร์ลีกที่เอติฮัด
สเตเดี้ยม วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งทั้งสองทีมห้ามพลาดเด็ดขาด
สำหรับ แอสตัน วิลล่า ต้องบอกเลยว่าทำผลงานได้สุดยอดสมเป็น “ม้ามืด” อย่างแท้จริง เพราะผลงานของทีมร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมามีคะแนนตามหลัง แมนฯ ซิตี้ 3 คะแนนเท่านั้น ด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ฟอร์ม
กระท่อนกระแท่นแต่ก็ยังคงเก็บชัยชนะได้และตอนนี้พุ่งมาอยู่อันดับ 6 มี 21 แต้มตามหลังจ่าฝูง 7 คะแนนเท่านั้น
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
25 พ.ย. : ลิเวอร์พูล (เหย้า)
3 ธ.ค. : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (เหย้า)
6 ธ.ค. : แอสตัน วิลล่า (เยือน)
10 ธ.ค. : ลูตัน ทาวน์ (เยือน)
16 ธ.ค. : คริสตัน พาเลซ (เหย้า)
27 ธ.ค. : เอฟเวอร์ตัน (เยือน)
(โปรแกรมพบ เบรนท์ฟอร์ด ยังไม่มีกำหนดเนื่องจาก แมนฯ ซิตี้ ต้องลงแข่งศึกคลับ เวิลด์ คัพ)
ลิเวอร์พูล
25 พ.ย. : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)
3 ธ.ค. : ฟูแล่ม (เหย้า)
6 ธ.ค. : เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เยือน)
9 ธ.ค. : คริสตัล พาเลซ (เยือน)
17 ธ.ค. : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า)
23 ธ.ค. : อาร์เซน่อล (เหย้า)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
26 พ.ย. : เอฟเวอร์ตัน (เยือน)
2 ธ.ค. : นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน)
6 ธ.ค. : เชลซี (เหย้า)
9 ธ.ค. : บอร์นมัธ (เหย้า)
17 ธ.ค. : ลิเวอร์พูล (เยือน)
23 ธ.ค. : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน)