ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกม พรีเมียร์ลีก นัดหวิดหลับยังกลับมาเฮ รัว 2 เม็ดทดเจ็บแซง คริสตัล พาเลซ 3-1

thumbnail
  • ตามหลังไปก่อน และไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบเลยในครึ่งแรก
  • แต่เล่นไปเล่นมา เมื่อ โปเช็ตติโน่ แก้เกมถูก เชลซี ก็รัวแซง คริสตัล พาเลซ 3 เม็ด
  • และนี่คือคะแนนความสามารถของนักเตะ เชลซี ประจำเกมนี้

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน: วันจันทร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567
สนาม: เซลเฮิร์สท์ พาร์ค
ผลการแข่งขัน: คริสตัล พาเลซ 1-3 เชลซี

ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดก่อนที่บุกสยบ แอสตัน วิลล่า ถึงรัง 3-1 เอฟเอ คัพ สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้เป็นความคาดหวังอีกครั้งของแฟนๆ เชลซี ว่าทีมรักจะสร้างความต่อเนื่องได้ ที่สุดแล้วถึงแม้ครึ่งแรกจะน่าส่ายหัว ตามหลังไปก่อนและไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบเลย แต่เมื่อ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จับจุดได้ แก้เกมถูก เชลซี ก็รัวแซงชนะ คริสตัล พาเลซ 3-1 ซึ่งที่จริงเกิดขึ้นในอึดใจสุดท้าย ก่อนจะจบเสมอแบ่งแต้ม

คะแนนนักเตะ เชลซี

ยอร์เย่ เปโตรวิช – 7 – ออกแรงเซฟแรกจังหวะซัดของ ชอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า แต่ถัดมาก็ช่วยไม่ได้จากลูกส่องไกลสุดงามตอนครึ่งชั่วโมงของ เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา ส่วนครึ่งหลังมีเซฟสำคัญ ลูกยากๆ ช็อตตะบันเต็มข้อหน้าเขตของ ฟรันซ่า ที่ทำให้ไม่เสียเม็ดสอง ก่อนกลับมาชนะในที่สุด

เบน ชิลเวลล์ – 6 –  ไม่ใช่เกมที่ต้องทำงานหนักนัก รวมถึงไม่เด่นเท่ากับอีกฝั่งอย่าง มาโล กุสโต้ โดยครึ่งหลัง น.68 มีโอกาสส่องไกลเข้าข้อ แต่คุมทิศไม่ดีจนข้ามคานไป

ติอาโก้ ซิลวา – 7 – กลับคืนตัวจริงแทนที่ เบอนัวต์ บาเดียชิล หลังถูกดร็อปไปในนัดก่อน และต้องเจอปัญหามากพอตัวในการชนกับกองหน้าร่างยักษ์อย่าง ชอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ซึ่งจังหวะล้มตัวบล็อกลูกยิง น.61 ก็ทำให้เจ็บต้องออกทันที

อักเซล ดิซาซี่ – 7 – ผลัดกันตามประกบ ชอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า กับทาง ติอาโก้ ซิลวา อยู่ตลอดทั้งเกม พร้อมมีโอกาสดันขึ้นโขกประตูด้วยเหมือนกันตอนท้ายๆ แต่ไม่อาจเอาชนะนายประตูคู่แข่งได้

มาโล กุสโต้ – 8 – มีส่วนร่วมกับเกมเยอะมาก แต่บอลสุดท้าย เปิดเข้าในไม่ค่อยแม่นยำ หลุดเป้ามากกว่าตรงเพื่อน กระนั้นเมื่อเข้าเป้าแล้วก็กลายเป็นประตู 1-1 ของ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ ทันทีเมื่อเริ่มครึ่งหลัง นอกนั้นในภาพรวมถือว่าดีเลย   ที่จริงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนออกก็ได้ในช่วงท้าย

มอยเซส ไคเซโด้ – 6 – ครึ่งแรกต้องเล่นเกมจ่ายบอล ถ่ายให้กับเพื่อนรอบข้าง มากกว่าจะวิ่งไล่ตัดเกมคู่แข่ง เมื่อ เชลซี เป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่าแม้เป็นทีมเยือน แต่ก็พลาดเล็กๆ จนเสียบอลและเสียประตูแรกไป 

เอ็นโซ เฟร์นานเดซ – 7 – เช่นเดียวกับ ไคเซโด้ คือเน้นเล่นบอลจ่ายมากกว่าอย่างอื่นในครึ่งแรก แต่ก็มีจ่ายพลาด ไม่เข้าใจกับเพื่อนให้เห็นบ้าง ส่วนครึ่งหลังที่จริงออกเงียบๆ ทว่าก็ทะลุเข้าไปยิงปิดกล่องย้ำชัย 90+4 

นิโคลัส แจ๊คสัน – 6 – แม้จะเล่นดีมากในเกมที่แล้ว แต่กลายเป็นว่าวันนี้เงียบฉี่ หายจากเกมอย่างสิ้นเชิงในครึ่งแรก นอกจากจ่ายบอลเล่นกับเพื่อนแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอีก จนครึ่งหลังแม้จะมีบทบาทมากขึ้น แต่ก็ไม่มากพอจนกระทั่งถูกถอดออก

คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ – 9 – วิ่งเยอะช่วยทีมเหมือนที่เคยเป็นมา ครึ่งแรกดูสับสนๆ อยู่บ้างกับการต้องแทนตำแหน่งของ โคล พาลเมอร์ ที่ถอยลงต่ำเป็นระยะ โดยเป็นเจ้าของโอกาสจบสกอร์หนเดียวของ เชลซี ช็อตตวัดยิงหลุดเสาออกไป เมื่อเริ่มครึ่งหลังแค่ 23 วินาที ก็ยิงตีเสมอได้ทันทีกับจังหวะเปิดของ มาโล กุสโต้ เข้ามาให้วอลเลย์ตุงตาข่าย สำคัญสุดคือเบิ้ลเม็ดสอง เป็นประตูชัย 90+1 ควัก 3 แต้มกลับออกไปในที่สุด

โนนี่ มาดูเอเก้ – 5 – ได้โอกาสตัวจริงต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงสปีดต้น จังหวะใช้ความเร็วที่ดี แต่ว่าการจ่ายบอลและพยายามเล่นเหนือชั้นคือปัญหา โดยเฉพาะตอนครึ่งชั่วโมงที่เล่นยากเกินไปในการจ่ายสั้นให้ ไคเซโด้ จนโดนตัด และเสียประตูทันทีจากลูกยิงไกล ผลต่อมาคือโดนเปลี่ยนทิ้งทันทีเมื่อเริ่มครึ่งหลัง 

โคล พาลเมอร์ – 8 – แม้จะออกสตาร์ทที่หน้าเป้าอีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะได้อิสระให้วิ่งขึ้นลง ออกจากตำแหน่งได้ตามใจ แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือเจาะหลังบ้านคู่แข่งไม่เข้า และยังดูสับสนกันเอง จนครึ่งหลังต้องกลับมายืนกลางรุกฝั่งขวาเมื่อ มาดูเอเก้ ถูกเปลี่ยนออก ซึ่งก็เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง 100% เมื่อ พาลเมอร์ ได้เล่นกับบอลมากขึ้นชัด และสุดท้ายปั้นบอลให้ กัลลาเกอร์ สังหารประตูชัย 90+1 เช่นเดียวกับป้อนให้ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ซัดย้ำแผล 90+4

สำรอง 

คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (แทน โนนี่ มาดูเอเก้ น.46) – 6 – ถูกส่งลงมาด่วนจี๋เมื่อเริ่มต้นครึ่งหลัง โดยทั้งยืนหน้าเป้าบ้าง สลับออกฝั่งซ้ายแทน นิโคลัส แจ๊คสัน บ้าง กระนั้นส่วนร่วมกับเกมกับมีน้อย บอลมาไม่ค่อยถึง

ลีวาย โคลวิลล์ (แทน ติอาโก้ ซิลวา น.61) – 7 – ลงมาจับคู่  ดิซาซี่ ในครึ่งชั่วโมงท้าย แทนที่ ซิลวา ซึ่งเกิดปัญหาบาดเจ็บขึ้น และมีจังหวะตัดเกมสำคัญให้เห็นบ้าง ถือว่าน่าพอใจทีเดียว

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แทน นิโคลัส แจ๊คสัน น.79) – 6 – หันรีหันขวาง คิดช้าทำช้าเหลือเกินกับโอกาสทองที่ โคล พาลเมอร์ แทงมาให้โล่งๆ แล้วในนาที 83 จนสุดท้ายยิงติดบล็อค ยังดีที่แก้ตัวได้กับจังหวะถัดมาที่ปั้นบอลริ่มต้นให้ พาลเมอร์ นำไปสู่ประตูแซงนำ 2-1

อัลฟี่ กิลคริสต์ (แทน มาโล กุสโต้ น.84) – 6 – ลงมาแค่เพิ่มความสด การช่วยเซนเตอร์แบ็กเล่นเกมปะทะกับแนวรุกคู่แข่ง ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้สร้างข้อผิดพลาดอะไร