เกมที่ไม่สมควรมีผู้แพ้!ส่อง 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล เปิดรังเจ๊า อาร์เซน่อล

thumbnail

เป็นอันว่าเก้าอี้จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ในวันคริสต์มาสจะยังตกเป็นของ อาร์เซน่อล เช่นเดิมเมื่อทีมจากเมืองกรุงบุกไปแบ่งแต้มกับ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ได้ด้วยสกอร์ 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 23 ธ.ค. ซึ่งแม้ เดอะ กันเนอร์ส จะยังทำลายอาถรรพ์บุกมาพิชิต หงส์แดง ที่เมอร์ซีย์ไซด์ไม่ได้ต่อไปเป็นปีที่ 11 แต่ผลเสมอนับว่าดีพอที่จะทำให้พวกเขาได้ขับเคี่ยวกับ เร้ด แมชีน เพื่อลุ้นคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้ต่อไปแบบยาวๆเนื่องจากฟอร์มการเล่นของทั้งสองฝ่ายในเกมนี้บ่งชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องเหมาะสมอย่างยิ่งไม่ว่าสุดท้ายแล้วแชมป์ลีกเมืองผู้ดีจะตกเป็นของทีมไหน

 

  1. หงส์ตกรางวัลส่ง โจนส์ ลุยต่อ

 

ลิเวอร์พูล วางหมากรับมือ อาร์เซน่อล โดยส่ง เคอร์ติส โจนส์ ออกสตาร์ตอีกเกม ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ หนีไม่พ้นโดนดร็อป

 

เจอร์เก้น คล็อปป์ จัดทัพ 11 คนแรกโดยที่ โจนส์ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงหลังเจ้าตัวระเบิดฟอร์มกดสองเม็ดพาทีมเขี่ย เวสต์แฮม ตกรอบแปดทีมถ้วย คาราบาวคัพ ด้วยสกอร์ 5-1 ที่ แอนฟิลด์  เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่กองหน้าทีมชาติ อุรุกวัย หลุดไปนั่งข้างสนามตามความคาดหมายหลังเท้าบอดมานาน 11 นัด

 

พร้อมกันนี้ วาตารุ เอ็นโด กองกลางทีมชาติ ญี่ปุ่น ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ หงส์แดง เป็นนัดที่หกติดต่อกันด้วย

 

  1. ปืนใหญ่ยึดโผเดิมฟัดหงส์

 

มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล วางใจใช้บริการ 11 นักเตะชุดเดิมจากแมตช์เปิดบ้านสยบ ไบรท์ตัน 2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด

 

นอกจากนี้ เดอะ กันเนอร์ส ยังได้ จอร์จินโญ่กับโมฮาเหม็ด เอลเนนีย์ สองกองกลางหายเจ็บฟิตกลับมานั่งข้างสนามด้วย

 

สำหรับเกมเด็ดปีก นกนางนวล ทีมจากลอนดอนได้สามแต้มจากสองประตูในช่วงครึ่งหลังของ กาเบรียล เชซุส และ ไค ฮาแวร์ตซ์

 

  1. บังโม เหนือ เจอร์ราร์ด

 

ลิเวอร์พูล เสียท่าให้ กาเบรียล เชซุส ตั้งแต่นาทีที่สี่ แต่สุดท้ายพวกเขามาได้ โม ซาลาห์ สตาร์ตัวกลั่นเป็นที่พึ่ง

ในการล่าตาข่ายอีกตามเคยเมื่อหัวหอกทีมชาติ อียิปต์ ซัดตีเสมอให้ทีมได้ในนาทีที่ 29

 

เท่ากับว่าถึงขณะนี้ บังโม เป็นนักเตะที่อันตรายที่สุดของสโมสรไปแล้วในด้านการมีส่วนร่วมโดยตรงกับการพังประตูเนื่องจากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการคลำเป้า 121 เม็ดเข้าไปแล้วจากการลงสนาม 120 นัดซึ่งเหนือกว่านักเตะของถิ่น แอนฟิลด์ ทุกรายสำหรับเกม พรีเมียร์ลีก นัดเหย้า (88 ประตู 33 แอสซิสต์)

 

121 ประตู : โม ซาลาห์

 

120 : สตีเว่น เจอร์ราร์ด (69 ประตู 51 แอสซิสต์)

 

100 : ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

 

พร้อมกันนี้ อาร์เซน่อล เป็นเหยื่อที่สุดแสนโอชะรายที่สามของ ซาลาห์ เช่นเดียวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เวสต์แฮม เรียบร้อยแล้วเนื่องจากทั้งสามสโมสรเป็นทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่สตาร์ไอยคุปต์พังประตูในเกมลีกได้มากที่สุด 10 เม็ดเท่ากัน

 

  1. เทรนต์ ทาบ โรเบิร์ตสัน

 

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เป็นขุนพลทีม ลิเวอร์พูล อีกรายที่โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในเกมเสมอกับ อาร์เซน่อล เนื่องจากแบ็คขวาจอมบุกทำแอสซิสต์ในเกม พรีเมียร์ลีก เป็นประตูที่ 57 แล้วซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดของรายการนี้เทียบเท่ากับผลงานของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน

 

ยิ่งไปกว่านั้น เทรนต์ ยังแอสซิสต์ประตูในเกมบู๊กับ 

อาร์เซน่อล ได้มากกว่าทีมคู่แข่งรายอื่นๆด้วยเนื่องจากมันเป็นแอสซิสต์ที่ 7 ของเขาในเกมปะทะกับทีม ปืนใหญ่ ซึ่งเป็นสถิติที่เทียบเท่ากับ สตีวี่ จี แต่หากนับรวมทุกรายการ เทรนต์ เหนือกว่า เดอะ เจิด เนื่องจากมันเป็นแอสซิสต์ที่ 9 ของเขากับทีมจากเมืองหลวงรายนี้

 

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ พรีเมียร์ลีก ถือกำเนิดในซีซั่น 1992/93 เจอร์ราร์ด ยังเหนือกว่า เทรนต์ ในฐานะนักเตะทีม หงส์แดง ที่สร้างสถิติแอสซิสต์สูงที่สุดกับทีมคู่แข่งรายเดียวกันคือ แมนฯ ซิตี้ (10 แอสซิสต์)

 

  1. ผลเสมอยุติธรรมดี

 

คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเกมที่ แอนฟิลด์ สมควรจบลงด้วยผลเสมอเนื่องจากทั้งสองทีมเล่นกันได้ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อีกทั้งสถิติฟ้องว่าไม่แปลกเลยที่เกมจะจบลงด้วยการแบ่งแต้ม

 

ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเกมในครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ยังเป็นรองในด้านการหาโอกาสเช็กบิลแม้จะครองบอลได้มากกว่า 55:45% แต่เป็น อาร์เซน่อล ที่ได้ส่องยิงมากกว่า 7:4 ครั้ง และส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่าเช่นกัน 2:1 ครั้ง

 

อย่างไรก็ดี เข้าครึ่งหลังเกมเป็นไปตามความคาดหมายเนื่องจาก เครื่องจักรสีแดง ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพจากการแก้เกมของกุนซือคนเก่งซึ่งทำให้พวกเขามีลุ้นทำประตูเท่ากับทีม ปืนใหญ่ หลังครบ 90 นาที แต่ต้องชมเชยทีมเยือนเช่นกันที่ตีตื้นได้ในด้านการครองบอลซึ่งเป็นรองเจ้าบ้านเหลือแค่ 51:49% เท่านั้นโดยทั้งคู่ได้ลุ้นทำประตู 13 ครั้งเท่ากัน แต่ หงส์แดง ส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 3:2 ครั้งอันเป็นการบ่งชี้่ได้เป็นอย่างดีว่าเกมนี้ไม่สมควรมีผู้ปราชัย

 

จะอย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงการเป็นทีมที่แพ้ยากอีกตามเคยเนื่องจากพวกเขาเก็บได้ 19 แต้มในฐานะทีมที่เสียประตูก่อนซึ่งเป็นผลงานที่เหนือกว่าทุกทีมใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้โดยพวกเขาแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้นหลังตาข่ายขาดก่อนจาก 10 นัด (ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 1)

 

ลิเวอร์พูล ไม่ชนะเกมเหย้าในลีกสองนัดติดต่อกันเป็นหนแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค.2021 ซึ่งพวกเขาเจ๊ากับ แมนฯ ซิตี้ ตามด้วย ไบรท์ตัน เนื่องจากก่อนเกมเจ๊ากับ อาร์เซน่อล 1-1 พวกเขาทำได้แค่เสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 ในเกมแดงเดือด