แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้าคว้าชัยในเกม พรีเมียร์ลีก ได้อย่างต่อเนื่องเป็นนัดที่ห้าแล้วจากหกนัดหลังด้วยการบุกไปสยบ เอฟเวอร์ตัน ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย.ขยับขึ้นสู่อันดับหกของตารางแม้ฟอร์มในสังเวียนแข้งของพวกเขาอาจยังชวนให้น่าสงสัย
สามแต้มที่มีเหนือทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน น่าจะส่งผลบวกต่อสภาพจิตใจของนักเตะ ปีศาจแดง ไม่มากก็น้อยสำหรับเกมบุกไปเยือน กาลาตาซาราย ในวันพุธนี้ซึ่ง เอริค เทน ฮาก ต้องพาทีมกำชัยสถานเดียวเท่านั้นหากยังหวังได้ลุ้นต่อในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มต่อการเอาตัวรอดผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ของถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก
- ท๊อฟฟี่ ขาดกองกลางตัวกลั่น
เป็นไปตามความคาดหมายที่ เอฟเวอร์ตัน ปราศจาก อามาดู โอนาน่า มิดฟิลด์คนสำคัญซึ่งเจ็บน่อง และลงเล่นเกมนี้ไม่ได้
ด้วยเหตุนี้ ทีมของ ฌอน ไดช์ จึงจำเป็นต้องปรับโผตัวจริงหนึ่งรายจากเกมบุกไปชนะ คริสตัล พาเลซ 3-2 โดยอาศัย อิดริสซ่า กาน่า เกย์ ลงบู๊แทน
ในซุ้มตัวสำรองของทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน พวกเขามีกัปตันทีม เชมัส โคลแมน นั่งรออยู่หลังเจ็บเข่าไปนานนับตั้งแต่เกมบู๊กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนพ.ค.
- ผีแดงส่งเจ้าหนู ไมนู ประเดิมสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด ตัดสินใจใช้งาน ค็อบบี้ ไมนู เจ้าหนูวัย
18 ปีที่ฟิตสมบูรณ์แล้วลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมลีกนัดแรก พร้อมต้อนรับการกลับมาของ ลุค ชอว์ ที่หายเจ็บ
ปีศาจแดง ปรับทัพรวมสามรายจากเกมเฝ้าบ้านเฉือนชนะ ลูตัน 1-0 โดยที่ ไมนู ได้เสียบแทน คริสเตียน เอริคเซ่น
ที่บาดเจ็บเช่นเดียวกับ ชอว์ แบ็คซ้ายทีมชาติ อังกฤษ ที่เบียด เซร์คิโอ เรกีลอน หล่นไปนั่งสำรอง
ขณะเดียวกัน ราสมุส ฮอยลุนด์ ไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้เนื่องจากถูกโรคเดี้ยงถามหา ส่งผลให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ไดัรับโอกาส ขณะที่ อันโตนี่ ปีกขวาทีมชาติ บราซิล ไม่ติดโผเช่นกันเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวน
- การ์นาโช่ ลุ้นประตูยอดเยี่ยม
แมนฯ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ตได้อย่างไฉไลเมื่อใช้เวลาแค่สามนาทีเท่ากับการต้มไวไวควิกก็เบิกสกอร์แรกได้ทันควันจากลูกตีลังกายิงที่งดงามของ อเลฮานโดร การ์นาโช่
สำหรับประตูดังกล่าวมีการยืนยันว่าอุบัติขึ้นในเวลา 136 วินาทีของเกมซึ่งหมายความว่าปีกทีมชาติ อาร์เจนติน่า
ยิงประตูในศึก พรีเมียร์ลีก ให้กับ ผีแดง ในเวลาที่รวดเร็วที่สุดต่อจากประตูของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ทำได้ในเกมบุกไปคว่ำ แมนฯ ซิตี้ 2-0 เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2021
แม้เกมในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด จะบุกมารักษาสกอร์นำ 1-0 แต่หลังคลำเป้าได้ ทีมของ เทน ฮาก โดนพับสนามบุกจนน่าจะเสียประตูหลายต่อหลายครั้งจากโอกาสของทั้ง โดมินิค คัลเวิร์ต ลูวิน และอีกหลายราย ขณะที่ อ็องเดร
โอนาน่า โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยทีมได้เช่นกัน
และด้วยเหตุนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงสานต่อฟอร์มที่เลวร้ายอย่างไม่รู้เบื่ออีกเกมเนื่องจากสถิติใน 45 นาทีแรกเป็นรอง เอฟเวอร์ตัน สุดกู่จากการโดนเจ้าบ้านส่องยิงมาถึง 10 ครั้งและเข้ากรอบ 4 ครั้ง ขณะที่ทีมเยือนครองบอลเหนือกว่าก็จริงจากตัวเลข 55:45% แต่พวกเขามีโอกาสยิงแค่ 2 ครั้งและเข้ากรอบครั้งเดียว
ถึงแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่แพ้คู่แข่งยากมากหากพวกเขาสามารถชิงนำหน้าไปก่อนได้ในเกมครึ่งแรกของ พรีเมียร์ลีก เนื่องจากหนสุดท้ายที่พวกเขานำก่อนในครึ่งแรก แต่ลงเอยด้วยความปราชัยเป็นเกมพ่ายต่อ เลสเตอร์ 5-3 เมื่อเดือนก.ย.2014 ซึ่งกินเวลานานถึง 137 เกมเข้าไปแล้วโดย ผีแดง ชนะมากถึง 118 นัด และเสมอ 19 นัด
- วีเออาร์พาผีเฮ
ต้นครึ่งหลังนาทีที่ 56 หากดูกันแบบผิวเผิน ผู้ตัดสินน่าจะเป่านกหวีดได้อย่างถูกต้องกับการแจกใบเหลืองให้กับ มาร์กซิยาล ข้อหาพุ่งล้มในเขตโทษ
แม้ว่าฟุตบอลยุคนี้มีวีเออาร์ช่วยท่านเปาอีกแรง และในที่สุดก็เป็นอันยืนยันว่าดาวยิงทีมชาติ ฝรั่งเศส โดน แอชลีย์ ยัง แหย่ขาดักล้มจริงจึงทำให้ใบเหลืองของหัวหอก
เฟรนช์แมนถูกยกเลิกพร้อมกับที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลูกโทษด้วยโดย มาร์คัส แรชฟอร์ด สังหารไม่พลาดพาทีมเยือนนำ 2-0 และเป็นประตูที่สองในซีซั่นนี้ของเขานับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย.
- มาร์กซิยาล จองเวรท๊อฟฟี่
ในที่สุด มาร์กซิยาล ก็จัดแจงยิงประตูแรกในเกมลีกซีซั่นนี้ให้กับตัวเองได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมการันตีชัยชนะให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด กับการพาทีมนำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 75
ถึงจะเป็นลูกแรกของเขาในซีซั่นนี้ แต่มันฟ้องว่าดาวเตะเลือดน้ำหอมช่ำชองการยิงประตูทีมตราลูกอมเป็นที่สุดเนื่องจากเป็นเม็ดที่เก้าแล้วที่เขาเช็กบิลทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์รายนี้ได้โดยแบ่งเป็นเจ็ดประตูในลีกซึ่งก็เป็น เอฟเวอร์ตัน นี่แหละที่เขากระซวกประตูได้มากที่สุดเหนือกว่าคู่แข่งทุกราย
ยิ่งไปกว่านั้น นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2023 มาร์กซิยาล ยิงประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้แค่สี่ลูกเท่านั้น แต่สองลูกเป็นเกมปะทะกับ เอฟเวอร์ตัน และที่สำคัญสกอร์ 3-0 นับเป็นเกมแรกในลีกซีซั่นนี้ด้วยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะคู่แข่งได้ด้วยสกอร์ที่มากกว่าหนึ่งประตู
ด้าน เอฟเวอร์ตัน แพ้คารังในเกมลีกนับตั้งแต่ปี 2023 เพิ่มเป็น 11 นัดแล้วจาก 18 นัด (ชนะ 5 เสมอ 2) ซึ่งนับเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดของสโมสรในรอบหนึ่งปีหลังทีม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เคยแพ้เกมลีกนัดเหย้า 10 นัดในปี 1929 , 1958 ,1993 และ 2021
แต่อย่างที่บอก แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เล่นได้เหนือกว่า
เอฟเวอร์ตัน เลยแม้จะกดได้สามประตูเนื่องจากสถิติหลังจบ 90 นาทีตีแผ่ออกมาว่าพวกเขาโดนเจ้าบ้านยกระดับเกมขึ้นมาครองบอลได้เท่ากันที่ 50:50% แถมทีมของ ฌอน ไดช์ ยังได้ยิงประตูมากกว่าถึง 22 ครั้ง และเข้ากรอบ 6 ครั้ง ขณะที่อาคันตุกะได้ยิง 9 ครั้ง และเข้ากรอบ 4 ครั้ง
ผีแดง เริ่มเร่งสปีดเก็บแต้มได้อย่างเป็นกอบเป็นกำมากขึ้นนับตั้งแต่เริ่มต้นเดือนต.ค.เนื่องจากกุนซือดัตช์พาทีมชนะในลีกมากถึง 5 นัด และแพ้นัดเดียวโดยเก็บได้ 15 แต้มเหนือกว่าทุกทีมร่วมลีกในช่วงเวลาเดียวกัน
7 ต.ค.แมนฯ ยูไนเต็ด 2- เบรนท์ฟอร์ด 1
21 ต.ค.เชฟฯ ยูไนเต็ด 1- แมนฯ ยูไนเต็ด 2
29 ต.ค. แมนฯ ยูไนเต็ด 0- แมนฯ ซิตี้ 3
4 พ.ย.ฟูแล่ม 0- แมนฯ ยูไนเต็ด 1
11 พ.ย.แมนฯ ยูไนเต็ด 1- ลูตัน 0
26 พ.ย. เอฟเวอร์ตัน 0- แมนฯ ยูไนเต็ด 3