บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกกลางสัปดาห์นี้ ลิเวอร์พูล จ่าฝูงเปิดบ้านต้อนรับ เชลซี ยักษ์หลับกลางตาราง ถือเป็นการชิมลางก่อนนัดชิง คาราบาว คัพ ช่วงปลายเดือนก.พ.ที่จะถึง ส่วนสถิติการพบกันก็ไม่น่าเชื่อว่า 7 นัดล่าสุดรวมทุกรายการล้วนลงเอยด้วยผลเสมอ
ปรีวิวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันพุธที่ 31 มกราคม 2567
ลิเวอร์พูล – เขลซี
เวลา : 03.15 น. ถ่ายทอดสด : ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 1-2
สนาม : แอนฟิลด์
ความพร้อมก่อนแข่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ จะทำทีมลุยพรีเมียร์ลีกนัดแรกนับตั้งแต่ประกาศอำลา “หงส์แดง” ตอนสิ้นสุดซีซั่นนี้ โดยได้ข่าวดีเมื่อ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกหลังจากวืดเกมเอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่ถล่ม นอริช ซิตี้ แต่ในราย ติอาโก้ อัลกันตาร่า คืนซ้อมได้แล้วยังไม่พร้อมคัมแบ็ก เช่นเดียวกับตัวเจ็บรายอื่นๆ อย่าง คอสตาส ซิมิกาส, โฌแอล มาติป, สเตฟาน บายเชติช รวมถึง โม ซาลาห์ ที่เดี้ยงระหว่างรับใช้ทีมชาติอียิปต์ ขณะที่ วาตารุ เอ็นโด ก็ยังติดพันภารกิจเอเชียน คัพ
ด้าน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ “สิงโตน้ำเงินคราม” ยืนยัน ลีวาย โคลวิลล์ กองหลังลูกหม้อจะหมดสิทธิ์มีส่วนร่วมเนื่องด้วยปัญหาบาดเจ็บระหว่างวอร์มก่อนเกมเอฟเอ คัพ กรณีเดียวกันกับ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู และ มาโล่
กุสโต้ ยังไม่ฟิตพอลงสนาม แต่ในราย นิโกลัส แจ็คสัน
หัวหอกเซเนกัลเสร็จสิ้นภารกิจ แอฟคอน รอลุ้นเดินทางกลับมาทันเวลาหรือไม่ แต่อาจจะนั่งสำรองไปก่อนโดยให้ โคล พาลเมอร์ เล่นฟอลส์ไนน์ พร้อมด้วย ราฮีม สเตอร์ลิง, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ มิไคโล มูดริค ปั้นเกม
นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – เคอร์ติส โจนส์, อเล็กซิส แม็ค
อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ค – ดีโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ, ลุยส์ ดีอาซ
เชลซี (4-2-3-1) : ยอร์เย่ เปโตรวิช – อักแซล ดิซาซี่,
ติอาโก้ ซิลวา, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เบน ชิลเวลล์ –
มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ – ราฮีม สเตอร์ลิง, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มิไคโล มูดริค – โคล พาลเมอร์
ความน่าจะเป็นของเกม
ลิเวอร์พูล เหนือกว่าอย่างมิต้องสงสัย ตามสถิติเจอในลีกแพ้แค่หนเดียวในรอบ 11 นัดหลัง แต่กลับกันก็ไม่ชนะ เชลซี มา 6 เกมติดต่อกันแล้ว ยิ่งในยุคโค้ชพอชดูจะเล่นดีเวลาเจอทีมใหญ่ เชื่อว่ามีลุ้นควักแต้มกลับไปเหมือนกัน
ผลการแข่งขันที่คาด : ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 1-1
